love_at_wisesight

5 เรื่องราว WISESIGHT ที่ประทับใจ

คิดว่าการทำงานหลายๆที่นั้นทำให้ผมได้มีประสบการณ์เห็น work process ของหลายที่ เลยอยากเขียนของที่ประทับใจไว้เพื่อว่าน้องๆคนไหนที่มองหาสถานที่ทำงานที่พร้อมจะ support ให้คุณได้พัฒนาขึ้นได้จริงนะ ไม่ได้อยู่กันแบบครอบครัว ครอบครัวเลือดข้นคนจางนะ เอาล่ะไปอ่านกันเลย !!!

ความเดิมตอนที่แล้ว ….

คืออย่างที่เคยเล่าไปในบทความก่อนนั้นผมกำลังหางานประจำทำอยู่โดยไปเริ่มที่สมัครที่ Line Thailand ตามนี้เลย

https://oxygenyoyo.com/2022/05/16/apply-for-job-line-developer-thailand/

หลังจากนั้นผมก็ไปสมัครงานกับทาง wisesight โดยขั้นตอนการสมัครก็จะตามบทความนี้เลยครับ

https://oxygenyoyo.com/2022/05/27/apple-job-wisesight/

แล้วตอนนี้ผมได้งานแล้วครับ !!! เย้ !!! คราวนี้ที่หายไปเพราะต้องปรับตัวบวกกับมีประสบการณ์เยอะมากๆ ใน 1 เดือนที่ผ่านมาเลยอยากเล่าเก็บไว้ว่า นักพัฒนาที่กำลังหางาน มองหาโอกาสใหม่ๆ ลองให้ที่นี่เป็นอีกสถานที่ทำงานที่น่าสนใจถือว่าผมมาเล่าและแนะนำไปในตัวแล้วกันครับ

1. วันแรกพร้อมกับ Quest ที่ต้องเก็บ

ปกติแล้วการทำงานวันแรกของบริษัทต่างๆถ้าไม่ใช่บริษัทเกี่ยวกับด้าน technology เป็นหลัก ก็จะมีปฐมนิเทศนิดหน่อย ไม่งั้นก็เริ่มงานเลย การที่เป็น process แบบนี้ ทำให้คนมาใหม่จะประหม่า และรู้สึกว่าสับสน เพราะไม่รู้เลยว่าเราต้องทำอะไรนะ ให้เริ่มงานไหน หรือต้องเรียนรู้จากเอกสารอะไรยังไง

การเริ่มงานวันแรกของหลายๆคนผมคิดว่ามันสับสนนะ เพราะต่อให้เขาบอกเป็นขั้นเป็นตอนแล้วก็ยังมีอีกหลายๆเรื่องเทเข้าสมองเราจนล้น แต่ที่นี่ จะเริ่มปฐมนิเทศคล้ายกัน แต่ต่างกันตรง คนที่เข้างานวันเดียวกับเราจะเป็นกลุ่มที่เราต้องทำความรู้จักกัน ผมอาจจะไม่ได้เล่าถึงขั้นตอนนะ แต่มีกิจกรรมให้คนที่เข้ามาใหม่พร้อมกันเป็นทีมเดียวกันแม้ว่า คนแต่ละคนจะอยู่คนละทีม ยกตัวอย่างของผมก็มี ทีมสื่อสาร ทีมค้นหว้า ทีมพัฒนา อะไรทำนองนี้

และกิจกรรมที่ทำให้เราต้องรู้จักนั้นเราต้องรู้จักทุกทีม โดยต้องทำทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะตำแหน่งอะไรก็ตาม ทำให้ทุกคนที่เข้ามาพร้อมกันวันนั้นต้องช่วยกันนัด เพื่อจะได้ทำ Quest รู้จักทุกทีมได้ครับ

ทำให้เราได้สนิทกับคนนอกแผนกตั้งแต่แรกเลย อันนี้ผมชอบมากเพราะนอกจากเราจะได้เจอเพื่อนใหม่คนละสายแล้ว ยังลดความเขินในการคุยกับคนด้วย นอกจากนี้เราต้องนัดเจอ C level ด้วยใครไม่รู้คือเหล่าผู้บริหารอ่ะครับ ใช่ครับเราต้องคุยผู้บริหารด้วยครับ เหตุผลที่ต้องคุยเพราะว่าทางผู้บริหารอยากเจอคนหน้าใหม่ด้วยและลดความประหม่าลง และได้รับ vision โดยตรงจากผู้บริหารอีกด้วย

2. ตำแหน่ง Flat

คือผมเคยอยู่ในบางบริษัทที่มี ขั้นของตำแหน่งเยอะ ถ้าใครไม่เข้าใจคือสมมติว่าคุณเข้าไปทำงานในตำแหน่ง Junior บางบริษัทจะมี Senior ต่อมามี Team Lead แล้วก็มี GM , AVP, VP, SVP คือมันระดับชั้นเยอะมากๆ การมีตำแหน่งไม่ห่างกันมากทำให้การทำงานไม่ต้องมีขั้นตอนเยอะ เช่น การติดต่อบางครั้งเราต้องบอกหัวหน้าเรา แล้วก็ให้หัวหน้าเราไปบอกหัวหน้าของอีกทีมเพื่อทำการ implement อะไรซักอย่าง แล้วให้หัวหน้าอีกทีมบอกลูกน้องให้ทำ เห็นไหมว่า ระบบการทำงานแบบนี้ทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุแทนที่บางครั้งอาจจะคุยได้เลย จากเราไม่ต้องบอกหัวหน้าอีกที หรือ อาจจะติดต่อทีมนั้นๆได้เลย

3. ว่ากันด้วยเรื่อง Development

ask_team
Photo by Annie Spratt on Unsplash

สิ่งหนึ่งที่ชอบที่สุดเลยคือ การ Development เพราะการทำงานที่นี่จะพยายามให้ Pair Programming มากที่สุดถ้าทำได้ เหตุผลดีๆที่ผมเจอคือ

  • ลดการอาการกลัว คือ ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่าแต่ผมเป็นคือผมจะกลัวว่า เราจะทำพลาด จะทำผิด หรือ เขียนโค้ดผิด สิ่งเหล่านี้ช่วยได้เยอะมาก
  • ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน อันนี้ถือว่าดีมาก คือได้เรียนรู้ว่าอีกคนเวลาทำงาน คิดยังไง หรือ เราเจอโจทย์แบบนี้ เราคิดยังไง เปิดมุมมองมากๆ
  • ช่วยกันแก้ปัญหา เวลาเจอปัญหาบางครั้งถ้าเป็น Junior อาจจะนึกไม่ได้ออกก็ได้ แต่อย่างน้อยเรามี 2 คนก็ดีกว่าหัวเดียว
  • เพิ่มความเชื่อใจในทีม พอเราทำการ pair นานนะดับหนึ่งเราจะเริ่มเชื่อใจว่า คนที่เรา pair ด้วยนั้นมีความคิดความอ่านที่เป็น standard ทีมแล้ว สามารถปล่อยให้ทำงานคนเดียวได้เพราะเขาจะจะจัดการงานตรงนั้นได้เหมือนๆเราทำนั่นเอง ในทางกลับกัน ทางคนที่ pair ก็สามารถไว้วางใจได้ด้วยเช่นกัน

4. ว่ากันเรื่องเวลาเรียนรู้สิ่งใหม่

หลายๆครั้งเราต้องไปเรียนรู้พัฒนานอกเวลางาน ซึ่งผมคิดว่าหลายๆคนที่เป็นนักพัฒนาที่ดี ก็น่าจะทำจนเป็นนิสัยกันอยู่แล้วครับ แต่จะดีกว่าไหมถ้าที่ทำงานนั้นสามารถให้คุณสามารถแบ่งเวลาช่วงเวลาทำงานมาศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้ด้วย สิ่งนี้มันมีที่ wisesight ครับ โดยจะมี learning day โดย dev สามารถเลือกหัวข้อที่สนใจเพื่อไปเรียนรู้ศึกษาเพิ่มเติมใน รูปแบบที่กลุ่มนั้นๆอยากจะให้เป็น โดยผมขอยกตัวอย่างของกลุ่มที่ผมเข้าไปนั่งเรียนนะครับ

ตอนผมเข้าไปทำงานแล้วนั้นก็มีการเริ่มกลุ่มเรียนรู้ไปแล้ว โดยระยะเวลาจะปประมาณ 4 สัปดาห์ แต่ละสัปดาห์จะมีวันที่เรียน 1 วันในช่วงเวลาที่เกิด event การเรียนรู้นี้ครับ ผมเข้าไปประมาณสัปดาห์ที่ 2 ครับ กลุ่มนี้เรียนรู้เรื่อง typescript ครับ โดยตั้งแต่พื้นฐาน ไปถึงระดับ advance เลย

โดยทาง wisesight เองก็มีการสนับสนุนเรื่องการเรียนด้วยเช่น คุณคิดว่า คอร์สนี้เกี่ยวกับเรื่อง typescript น่าสนใจและราคาไม่แพง เอาจริงๆถ้ามีราคาระดับหนึ่งไม่เวอร์ ที่นี้ก็ซื้อให้เข้าไปศึกษาได้ด้วย หรืออาจจะเป็นหนังสือก็ดีครับ

กลุ่มนี้มีการเรียนรู้แบบกระจายครับ กล่าวคือ แยกไปเรียนรู้กันเอง แล้วเอาสิ่งที่รู้มาแบ่งๆกันอีกที หรือว่าเจอตัวอย่าง ที่น่าสนใจในงานนั้น หรือตัวอย่างงานจริงที่เราสามารถเอาสิ่งที่เราเรียนรู้ใหม่ มาประยุกต์ใช้ได้ ทำให้ทีมสามารถเรียนรู้ไปด้วยพร้อมกัน เสร็จจากการเรียนรู้แล้ว เราต้องมาสรุปสิ่งที่เราเรียนรู้ทั้งหมด ด้วยการ present ประมาณ 10-15 นาทีครับ

โดยส่วนใหญ่การสรุปค่อนข้างสั้นอาจจะต้องไปอ่านเพิ่มเติมจากใน slide ซึ่งแต่ละทีมก็มีแจกให้ด้วยครับ ถ้าใครสนใจจะเรียนอันไหนก็สามารถไปศึกษาต่อได้อีกด้วยครับ

5. ตั้งเป้าหมายและการติดตามผล

สิ่งหนึ่งที่ชอบอีกอันเลย คือ เป้าหมายที่ชัดเจนของอาชีพและสิ่งที่เราจะพัฒนาไปเป็นในอนาคต โดยที่ wisesight ไม่ได้ให้คุณเข้ามาทำงานไปวันๆ จะมีการคุยกับหัวหน้าและโค้ช เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่เรากำลังจะไปเป็นไปอนาคตอันใกล้นั้น เรามีทักษะหรือ skill ที่เพียงพอแล้วหรือยัง ยังขาดอะไร แล้วต้องเพิ่มเติมอะไรบ้าง ผมคิดว่าค่อนข้างแฟร์เหตุผลเพราะว่า ผมเคยเจอบางที่ทำงาน การประเมินขึ้นอยู่กับแค่คนคนเดียว หรือ ไม่มีเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าทำได้ผ่านกี่เรื่องเราถึงจะเปลี่ยนตำแหน่งได้

แต่ที่นี่เขาจะตั้งเป้าหมายแต่แรกเลย แล้วมีการคุยกันว่า มันแฟร์ไหม หรือยากแค่ไหน เป็นไปได้ไหม อะไรที่จะทำให้เราทำตามเป้าหมายนั้นไม่ได้ ต้องการความช่วยเหลือจากใคร โดยที่นี่จะไม่ได้ให้คุณคิดเองหมดสามารถคุยเพื่อให้รู้ว่าเราขาดอะไร ต้องการสกิลนั้นๆจากใครบ้างครับ

โดยช่วงทดลองงาน ก็จะมีเป้าหมายสำหรับช่วงทดลองงานด้วยแยกกันกับตัวเป้าหมายหลักที่เราจะพัฒนา และทุกๆเดือนต้องมีการติดตามผล ว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหนของเป้าหมายแล้ว เข้าใกล้แล้วหรือยัง หรือว่าเราหลงทางอยู่ โดยการคุยเราจะได้รับ feedback ทั้งจากคนในทีมของเรา คนที่เป็นหัวหน้าของเรา คนที่เป็นโค้ชของเรา ผมรู้สึกว่า ผมชอบการกระบวนการแบบนี้เพราะทำให้เรารู้สึกมีเป้าหมายที่ต้องพัฒนา และเรารู้สึกถึง lv up จริงๆอีกด้วย

อาจจะดูว่ามีกระบวนการเยอะเยะแต่จริงๆแล้วคือ เป็นกระบวนการเพื่อจะช่วยและพัฒนาบุคคลากรในองค์กร เพราะหลักๆคือ ตัวองค์กรเองก็อยากให้เราสามารถผ่านเกณฑ์ได้ด้วย โดยให้ทั้งคนที่ปรึกษาได้และองค์ความรู้ที่เราต้องการครับ

สรุปส่งท้ายก่อนไป

อยากให้ลองมองที่นี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าเข้าทำงานดูเหตุผลเพราะว่า wisesight ไม่ได้มองหา แค่คนทำงาน แต่มองหาคนที่พร้อมจะพัฒนาตัวเองและช่วยเหลือผลักดันให้คนในองค์กรสามารถไปถึงเป้าหมายได้ และที่สำคัญคือตอนนี้ยังเปิดรับตำแหน่งอื่นๆ อีกด้วย ไม่ใช่แค่ตำแหน่ง developer เพียงเท่านั้นที่เปิดรับ แต่มีอีกหลายตำแหน่งครับ แล้วทุกฝ่ายนั้นจะได้รับการสนับสนุนเหมือนที่ผมเขียนในบทความนี้เช่นกัน

ก็หวังว่าจะเป็นบทความที่ช่วยทำให้คุณตัดสินใจสมัครงานที่ใหม่ที่ถูกใจคุณได้นะครับ ใครสนใจตำแหน่งอะไรเชิญตรงนี้เลย

https://career.wisesight.com/

Loading

เป็นโปรแกรมเมอร์ที่ตามหาคุณค่าของชีวิตและความฝันในวัยเด็ก ชอบเล่นเกม เรียนรู้ทุกอย่าง ชอบเจอคนใหม่ๆ งานสังคมทุกชนิด ออกกำลังกายในวันว่าง อ่านหนังสือ มีเว็บรีวิวหนังสือด้วย www.readraide.in.th